ธุรกิจ SME โดนผลกระทบจากสถานการ์ณโรคระบาดโควิด 19 และส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก ไม่ว่าน้อยใหญ่ก็ตาม ด้วยจากการล็อคดาวน์ของภาครัฐ หลายธุรกิจเสมือนอยู่ในภาวะที่ถูกแช่แข็ง ทำให้หลายธุรกิจต้องปรับตัวเพิ่มช่องทางการค้าโดยใช้วิธีออนไลน์มากขึ้น รวมไปถึงธุรกิจขนาดเล็กอย่างธุรกิจ SME นั้นถือว่าโดนผลกระทบค่อนข้างหนัก โดยการการวิจัยจากสถาบันทางการเงินหลายแห่งนั้น ต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า เศรษฐกิจโลกจะหดตัวลงถึง 3.2% ส่วนในภูมิภาคอาเซียนนั้นเศรษฐกิจจะปรับตัวลดลงถึง 2.1-5.4% ส่วน GDP ของประเทศไทยนั้นจะอยู่ที่ -5% ถือว่าเป็นตัวเลขที่น่ากลัวอยู่ไม่น้อย และถึงแม้ว่าในตอนนี้หลังจากปลดล็อคดาวน์มาซักระยะหนึ่งแล้ว แต่ตัวเลขทางเศรษฐกิจยังคงนิ่งอยู่ โดยภาครัฐได้ออกมาตรการต่างๆ เพื่อช่วยเหลือและสนับสนุนธุรกิจหลายประเภทเพื่อให้สามารถไปต่อได้ด้วย

รัฐบาลได้ออกมาตรการช่วยเหลือให้กับทาง ธุรกิจ SME ที่ได้รับผลกระทบมา 4 มาตรการ
สำหรับธุรกิจ SME ซึ่งเป็นธุรกิจที่สำคัญมากและยังเป็นแหล่งจ้างงานหลักภายในประเทศ ต่างก็ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจเช่นกัน ดังนั้น ทางภาครัฐจึงออกมาตรการช่วยเหลือธุรกิจที่ได้รับผลกระทบมา 4 มาตรการใหญ่ๆ ดังนี้

1. มาตรการที่ 1 เลื่อนกำหนดการชำระหนี้สำหรับธุรกิจ SME ที่มียอดกู้เงินในวงเงินไม่เกิน 100 ล้านบาท โดยให้ระยะเวลาสูงสุด 6 เดือน เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้กับธุรกิจ โดยสามารถไม่ต้องชำระหนี้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย ทั้งนี้จะไม่มีการเสียประวัติทางการเงินด้วย
2. มาตรการที่ 2 สนับสนุนการปล่อยสินเชื่อใหม่ (Soft loan) ให้กับธุรกิจ SMEs โดยมีวงเงินสินเชื่อไม่เกิน 500 ล้านบาทต่อธุรกิจ และผ่อนปรนดอกเบี้ยให้เหลือร้อยละ 2 ต่อปี และในระยะ 6 เดือนแรกไม่มีการคิดดอกเบี้ยจากเงินต้น ทั้งนี้รัฐบาลจะเป็นผู้แบกรับภาระดอกเบี้ยให้กับประชาชนในช่วง 6 เดือนแรก เพื่อให้ประชาชนได้กู้เงินเพื่อให้เกิดสภาพคล่องทางธุรกิจของตนเองได้
3. มาตรการที่ 3 ช่วยเหลือภาคเอกชนในเรื่องตราสารหนี้ ในช่วงโควิด 19 โดยการจัดตั้งกองทุนเสริมสภาพคล่องในเรื่องของตราสารหนี้ให้กับภาคเอกชน เพื่อเป็นแหล่งเงินทุนสำรองชั่วคราวในภาวะเช่นนี้ โดยบริษัทที่เข้าร่วมมาตรการนี้จะต้องชำระดอกเบี้ยในอัตราที่สูงกว่าอัตราตลาด และเป็นบริษัทที่ไม่มีประวัติเสียทางด้านการเงินด้วย
4. มาตรการที่ 4 ลดการนำส่ง FIDF จากสถาบันทางการเงิน โดยปรับอัตราดอกเบี้ยจาก 0.46% เหลือ 0.23% ของฐานเงินฝาก เป็นระยะเวลา 2 ปี เพื่อให้สถาบันการเงินต่างๆ ได้นำไปปรับลดดอกเบี้ยให้กับประชาชนและธุรกิจอีกทอดหนึ่ง

อย่างไรก็ตามมาตรการที่ภาครัฐได้ออกมาให้ความช่วยเหลือ จะยังคงสามารถช่วยธุรกิจได้ในระยะหนึ่ง ทั้งนี้หวังเพียงว่าจะไม่มีเหตุการณ์ไม่คาดฝันตามมาอีก ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการ สถาบันทางการเงินต่างก็ได้รับบทเรียนจากสถานการณ์นี้กันทั่วหน้า ดังนั้น ขอเพียงอดทนไม่ยอมแพ้ และใช้สติให้มาก เราทุกคนก็จะผ่านวิกฤตนี้ไปได้ด้วยกัน เอาใจช่วยทุกธุรกิจให้ก้าวเดินต่อไปได้นะคะ
ติดตาม ธุรกิจที่น่าสนใจ ได้ทุกวันกับเว็บไซต์ของเรา ตลอด 24 ชั่วโมง และ สำหรับสมาชิกใหม่ที่เริ่มเล่นกองทุน ควรซื้อ กองทุนรวม ประเภทไหนถึงจะได้กำไร